โปรแกรมอะไร ตัดต่อง่ายที่สุดแต่เป็นระดับมืออาชีพ มีความเป็น #ฮอลลี่วูด* |
![]() |
เขียนโดย Administrator |
วันอังคารที่ 05 กันยายน 2017 เวลา 16:57 น. |
โปรแกรมอะไร #ตัดต่อง่ายที่สุดแต่เป็นโปรแกรมระดับมืออาชีพ มีความเป็น #ฮอลลี่วูด*ก็คงหนีไม่พ้น Final cut Pro Xด้วยความสามารถ 5 ประการเด่นๆ **ทำไมถึงฟันธงแบบนี้ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนสักเล็กน้อย..
- ไฟนอลคัตโปรX เป็น แอฟพิเคชั่นที่เกิดใหม่ สร้างเพื่อคนรุ่นใหม่ แนวคิดและโครงสร้างใหม่! ตอบสนองต่อการทำงานในอนาคต.... เราจะเห็นจากตัวโครงสร้างของโปรแกรม
สถานีโทรทัศน์BBC ถ่ายทำข่าวที่แม่น้ำโขงประเทศลาว ส่งไฟล์วิดีโอผ่านอากาศ เข้าสู่ระบบserver จัดเก็บ รอการตัดต่อ โดยใช้ช่างตัดต่อวิดีโอ ที่เป็นฟรีแลนซ์ มาจากทุกสารทิศทั่วโลก ซึ่งช่างตัดต่อมีเพียงMacbook pro 1เครื่อง แต่สามารถฟังเสียงและภาษาลาวได้ จะถูกคัดเลือกให้เป็นผู้ตัดต่อ นั่งอยู่ที่บ้านเสียบรับสายแลนความเร็วสูงเข้าเครื่อง Macbook ตัดต่อข่าวนั้นในเวลาที่รวดเร็วทันที และการleave files in place เมื่อตัดผ่านสายนั้นเสร็จสิ้น ก็สามารถออกอากาศได้ทันที ไฟล์เหล่านั้นจะคงอยู่ในserverกลาง เก็บไว้ ให้ทุกฝ่าย สามารถนำไปใช้งานได้ และผู้กำกับข่าว ก็สามารถ เปิดงานนั้นแก้ไขได้ตลอดเวลา งานจะไม่ได้ผูกติดกับช่างตัดต่อหรือเครื่องตัดต่อของใคร
* ประการที่ 2 การทำงานแบบสแตนด์อโลน copy to Library ได้ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม (ไปเปิดดูเลยครับว่ามีโปรแกรมหรือแอฟไหนบ้างที่สามารถทำได้และมีทางเลือกให้แบบนี้ ) ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เมื่อเราตัดต่อ โดยเอาภาพมาจากเพื่อนบ้าง มาจากเน็ตบ้าง จากฮาร์ดิสคนอื่นบ้าง หรือเสียงเพลงจากทรัมพ์ไดร์ ต่างๆ ไฟล์จากเมมโมรี่การ์ด เมื่ออิมพอร์ตเข้ามาจนเสร็จสิ้นแล้ว ปิดเครื่อง นำงานนั้นไปตัดต่อที่ไหนๆก็ได้ครับ มันจะไม่ถามหาไฟล์ต่างๆเหล่านั้นเลย คุณจะได้ไม่ต้องเสียบการ์ด หรือโทรหาเพื่อนว่าอย่าลบไฟล์นะ ไม่มีการถามหา ไม่มีการmissing files ใดๆทั้งสิ้น
*ประการที่ 3 ในการทำงานข้ามไลบรารี ทำได้อย่างมหัศจรรย์ เราสามารถ เปิดงานของเพื่อนๆ กี่คนก็ได้ ที่เขาตัดต่อไว้ นำภาพ นำโปรเจคของเขา ดึงมาใช้ในงานของเราเบย สบายๆจริงๆ
* ประการที่ 4 การทำงานเป็นเรียลไทม์ คือ เห็นภาพจริงที่จะเกิดขึ้นถ้าเราเลือกเอฟเฟคหรือไตเติ้ล หรือ ทรานสิชั่น อันนี้ เช่น ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน - การใส่เอฟเฟค เมื่อเอาเม้าท์ไปวางที่ตัวเอฟเฟคที่เราจะใส่ มันจะโชว์ภาพที่เราจะได้ขึ้นมาให้เห็นเลยครับ ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาอันไหนดี โดยที่ยังไม่ต้องเอามาใส่ในคลิปวิดีโอของเรา ใช้เม้าท์ลากผ่านเลือกได้ตามสบาย งานไว ไม่ต้องมานั่งลองเดา ต้องเอาเอฟเฟคใส่ก่อนแล้วรอเรนเดอร์ถึงจะเห็นภาพจริง ไม่เหมือนโปรแกรมตัดต่ออื่นๆ FCPX ตัวนี้เทพจริงๆ ยอมรับตรงจุดนี้ อีกครั้ง
* การใส่ทรานสิชั่น คลิ๊กลงไปที่ช่องไหนก็จะเห็นภาพที่เราจะได้อีกทันที สามารถใส่ทรานสิชั่น พร้อมๆกัน หลายๆอันทีเดียวพร้อมกันเลย ไม่มีลิมิตเต็ด ครับ แค่เพียงดับเบิ้ลคลิ๊กช่องที่ใส่ ทรานสิชั่นก็เสร็จ ร้อยทั้งร้อย พันทั้งพัน ครับ ลองทำดู
ภาพนี้เอาเม้าท์วางที่cross hatch ภาพก็ย้อมสีให้ดูเลย ยังไม่ได้คลิ๊กใส่ลงไปที่คลิป ตัวหนังสือก็ให้มาเขียนข้อความเปลี่ยนได้เลย เปลี่ยนสี ผสมสี ใส่ขอบใส่เงาได้ทันที ** ประการที่ 5 การทำงานกับปลั๊กอิน เทมเพลต แก้ไขได้จากตัวโปรแกรมไฟนอลคัตโปร x เลย แก้ สีเทมเพลต ตัวหนังสือ ข้อความต่างๆ และถ้าต้องการแก้เทมเพลตให้เป็นชุดใหม่ ก็เพียงแต่ คลิ๊กขวา มันจะลิงค์เข้าไปที่โปรแกรมโมชั่น และแก้ไขได้อย่างอิสระ จนแทบมองไม่ออกว่าเทมเพลตเดิมคืออันไหน อันนี้เทพมาก ทำให้เราสามารถ สร้างเทมเพลตใหม่ โดยใช้เทมเพลตที่มีอยู่ต่อยอดไปได้เลย สร้างไว้ใช้เองง่ายๆ พอสร้างเสร็จมันก็กลับมาอยู่ในโปรแกรมไฟนอล โดยเป็นชื่อใหม่ ทันที ยังมีข้อดีอีกเพียบครับ จะขอยกตัวอย่าง ไว้เพียงแค่นี้ก่อน ...ยังมีอีกเยอะครับเราจะทะยอยคุยกันไปเรื่อยๆ
** อ้อ ประการสำคัญอย่างยิ่ง อย่าลืมนะครับว่า กสทช. บ้านเรา ออกอากาศด้วยโค๊ดของ Apple Proress422ภาพคมชัด สีจริง ออกอากาศแล้วภาพไม่เสีย... ตัดต่อด้วยเครื่องไหน.. เทพอะไร.. ยังไง.. ไม่จบครับ.... ต้องมาจบที่ Apple Machintosh **ข้อเสียหรือครับ มันใช้ไม่ได้กับ ระบบปฎิบัติการ Windows ***ฮ่าๆ
.... แน่นอนครับ Final Cut pro X ถูกสร้างโดยบริษัท Apple และได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ....สามารถเชื่อมต่อกับ ปลั๊กอิน เทมเพลต ที่มีขายดาษเดื่อน.. สร้างง่าย.. ขายง่าย ..... เป็นแอฟเล็กๆที่คุณภาพ ไม่เล็กเลย งานนี้คงไม่ต้องหาเหตุผล ว่าทำไม Apple จึงทิ้ง FCP7 ทั้งๆที่มันดีกว่า เสถียรกว่าซอฟแวร์ตัดต่อตัวอื่นๆ มันเกิดมาพร้อมๆพีรืเมียร์ และมัน....ล้าสมัย ครับ... |
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 05 กันยายน 2017 เวลา 21:58 น. |