Final cut Pro X - Optimized VS Poxy Media : บทความ by ครูแบท
ถ้าเราต้องตัดต่องาน ที่ต้องใช้ไฟล์ขนาดใหญ่ งานตัดต่อที่มีไฟล์ฟุตเทจ มากมาย ไฟล์ชนิด 4k
หรือไฟล์ที่มีความยาวเป็นชั่วโมง นั่นหมายถึงว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ถ้าสเปคไม่มากพอ มันก็จะทำงานช้า อืด หรือแทบจะทำงานไม่ได้เลย หากเราตั้งค่าในการตัดต่องานแต่ละชนิด ไม่เหมาะสมกับสเปคของเครื่อง
ดังนั้น ถ้าคุณมีปัญหานี้ ลองมาใช้วิธีการตัดต่อแบบProxyกันดู
ก่อนอื่น 1. ไปที่ช่อง เมนู Final Cut Pro 2.เลือก Preferences
3. เลือกโหมด Import
เราจะเห็นว่า โปรแกรมได้แสดงค่า Default สิ่งต่างๆที่จำเป็นให้เราทำงานอยู่แล้ว
4.ดูในช่อง Transcoding จะเห็นว่าโปรแกรมได้ติ๊กถูกไว้ที่ ช่อง create Optimized media และ Create Proxy Media
เราจะมองเห็นช่อง ต่างๆถูกติ๊กเครื่องหมายถูกไว้ มาดูความหมายของ
Create Optimized media คือะไร?
- ไฟนอลคัต จะอิมพอร์ต ไฟล์ฟุตเทจทั้งหมดที่เราอิมพอร์ตเข้าแล้วแปลงไฟล์นั้นเป็น ชนิด Proress เพื่อให้โปรแกรมไฟนอลคัตตัดต่อได้ราบรื่น เพราะไฟนอลคัต ทำงานกับไฟล์ชนิดนี้เท่านั้น แต่ไฟล์ก็จะมีขนาดใหญ่มาก ตัวอย่างเช่นไฟล์นิดFull HD 1080ในเวลา 1 นาที จะมีขนาดใหย๋ 1.2 GB ถ้าไฟล์มีความยาว 1 ชม. ก็จะมีขนาดไฟ์ใหญ่ ประมาณ 78 GB เลยทีเดียว
- แต่ถ้าเราถ่ายทำคลิปด้วยไฟล์ชนิด proress อยู่แล้วมันก็จะตัดต่อได้เลย โดยที่ไม่เสียเวลาแปลงโค๊ด การตัดต่อก็จะไวและราบรื่นมาก
เห็นแล้วนะครับว่า ไฟนอลคัตจึงติ๊ก Defultไว้ที่ช่องนี้
- ข้อดีคือมันจะทำงานได้ไวมาก การแชร์งานออกมาด้วยเวลาอันรวดเร็วมากๆ การทำเอฟเฟค ใส่ลูกเล่นต่างๆ ได้ลื่นไว ไม่มีติดขัด
- ข้อเสียคือ มันจะต้องกินเนื้อที่ในไลบรารีใหญ่มาก และเมื่อนำลงมาตัดต่อในไทม์ไลน์ ถ้าเครื่องไม่แรงพอ มันก็จะอืด หนืด และหน่วง ช้า จนถงขนาดขยับเม้าท์ไม่ไป
ทีนี้มาดูช่อง Poxy media
ไฟนอลคัตอาจจะไม่ได้ติ๊กเลือกที่ช่องนี้ ไว้ แต่ถ้าติ๊กช่องนี้ล่ะมันคืออะไร
เมื่อเราอิมพอร์ตไฟล์ฟุตเทจเข้ามาตัดต่อ อันดับแรกมันก็จะทำการ Optimized ตามปกติดังที่กล่าวไปแล้ว และจากนั้นมันก็จะสร้างไฟล์ ที่มีรายละเอียดหยาบๆ เพื่อให้ไฟนอลคัตนำไปใช้ตัดต่อในไทม์ไลน์
เรียกไฟล์ชนิดหยาบๆ ไม่ละเอียด ไม่คม และมีขนาดเล็ก นี้ว่า Proxy ไฟล์
ในการตัดต่อเมื่อเราดึงไฟล์ลงไปที่ไทม์ไลน์
แทนที่ ไฟนอลคัตจะนำไฟล์ proress ขนาดใหญ่ ซึงจะสร้างปัญหาในการเปิดดูภาพจะต้องใช้ทรัพยากรสูงรีดออกมาทั้งหมด ดึงเอาเครื่องให้ทำงานหนัก ดังนั้นเพื่อไม่ให้ไปรีดสเปคเครื่องมากนัก เราจึงใช้ proxy ไฟล์เข้ามาทำงาน
การทำงานในไทม์ไลน์ ด้วยไฟล์ชนิด Proxy นี้ ก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น และไม่กินสเปคเครื่องของเรามากนัก
นี่คือการช่วยชีวิตของช่างตัดต่อที่ต้องทำงานกับไฟล์ฟุตเทจ ในโปรเจคขนาดใหญ่ๆ ได้ราบรื่น
ถ้าเราตัดต่อด้วยมัลติแคม 1080P ด้วยกล้อง 4 ตัว ความยาว 30 นาที เมื่อทำมัลติแคม ไฟล์ทั้งหมด 120 นาที คิดคร่าวๆว่า1กิ๊ก ต่อ1นาที ไฟล์ทั้งหมด 120 กิ๊ก ขึ้นไป ตัดต่อด้วย Macbook แรม8 คอร์ I 5 แล้วพ่วงฮาร์ดิสชนิด USB3 ไปไม่รอดแน่นอน ถ้าเปลี่ยนUSB C เราอาจตัดต่อตามปกติได้ แต่ ถ้าเราใช้ตัดต่อแบบProxyแล้ว ราบรื่นแน่นอน
เมื่อเราติ๊กถูกในช่องproxyแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องทำคือ ในหน้าต่างไฟนอล Viewให้เลือกวิวที่ Proxy ด้วย
แน่นอนภาพที่เรามองเห็นมันก็จะดรอปลงไป ไม่เคียลร์แจ่มชัด เพราะมันจะได้ไม่ไปรีดทรัพยากรของเครื่อง มาใช้ มีแรมเหลือ ทำให้การทำงานในไทม์ไล์ไหลลื่น
แต่ไม่ต้องตกใจเราสามารถที่จะสวิสท์กลับไปเลือก วิวช่อง full resolutionได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเราสวิท ย้อนกลับมาที่proxy อีกเราจะเห็นกล่องสีแดงขึ้น missing Flie นั่นหมายความว่า เราต้องรอให้เครื่อง เจนเนอเรท ไฟล์ฟุตเทจให้เสร็จก่อน มันก็จะกลับมาเป็นภาพตามปกติ
นี่คือข้อดีที่มีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่ตัดต่อไปบ้างแล้วแต่เครื่องเริ่มอืดและช้าลง เราสามารถเลือกทำงานแบบ proxy ได้ตลอดเวลา
ที่นี้ถ้าเราลืมติ๊ก Poxy Media หรือ Ceate Optimize Media ไว้ตั้งแต่ก่อนทำงานล่ะ ไม่ต้องกังวล เรายัง เราสามารถ เลือก files >Transcode Media พร้อมกันทั้งหมดทุกไฟลื หรือคลิีกขวาที่ไฟล์นั้นๆ แล้วเลือก Transcodeก้ได้
มันก็จะมีกล่องขึ้นมาให้เราเลือกได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเราเอาไฟล์จากการ์ดโดยตรงเลยเราต้องเสียบการ์ดนั้นด้วย ดังนั้น แนะนำให้เอาไล์ฟุตเทจออกจากการ์ด ไปใส่ไว้ในฮารืดิสพ่วงเสียก่อนจะดีกว่า เมื่อเราตัดต่อทำงานในไทม์ไลน์แบบ poxy เสร็จแล้ว ค่อยส่ง Optimize ทีหลังก็ได้ เราไม่ต้องมานั่งรอ ไปจิบกาแฟ หรือข้าวเหนียวส้มตำกินได้เลย
เห็นได้ว่าไฟนอลคัตนั้นยืดหยุ่นมากๆในการทำงาน
ทีนี้ถ้าเราแชร์งานแบบดราฟให้ลูกค้าดูก็แชร์ ได้เลยโดยไม่ต้องสวิท วิวกลับไปที่ Optimized/Original
งานที่ได้จะออกมาแตกๆหบายๆ มีความละเอียดต่ำ เมื่อลูกค้าจ่ายเงินแล้ว ค่อยมาแชร์งานให้เต็มรายละเอียดอีกที
การแชร์หรือExpotงาน ออกมาให้คมชัด
การแชร์งานให้รายละเอียดสูงเท่าต้นฉบับ ให้สวิท วิวกลับไปที่ Optimized/Original เสียก่อน
แล้วค่อยไปที่ เมนู files >Share > master หรือ apple device 1080 P ตามต้องการ
การลบไฟล์ optimized /Proxy Media ทิ้ง ไม่มีผลกับงานที่ตัดต่ออยู่
ที่นี่คุณยังสามารถลบไฟล์ optimized /Proxy Media ออกอย่างง่ายดาย ไปที่เมนู Files > Deleted Generated LB files มันจะลบไฟล์ทั้งหมดออกไป
ในกล่องนี้สามารถเลือกว่าจะลบอะไรออกไปก็ได้
ปกติถ้าเราลบออกทั้งหมดแล้วแต่วันหนึ่งอยากกลับมาทำงานในไลบรารีเดิมอีก ไฟนอลคัตจะเริ่มเจนไฟล์ทั้งหมดให้เราทำงานได้เหมือนเดิมทุกอย่าง เราแค่ให้เวลามันแปลงไฟล์ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยลงมือตัดต่อในไทม์ไลน์ได้อย่างราบรื่นและไม่กินทรัพยาการเครื่อง
Final cut pro X มันเทพจริงๆ
ครูแบท www.vdoschool.com
มีคลิปวีดีโอ บทเรียนออนไลน์ อธิบายไว้อย่างละเอียด ทั้ง 3 ตอน
เครื่องเต็ม ฮาร์ดิสเต็ม Orther Files เพียบ เรียก VDOschool
รับเซ็ทระบบเครื่องตัดต่อเพื่อใช้งานตัดต่อวิดีโอ ให้ง่ายขึ้น
สร้างระบบปลั๊กอิน - ลงปลัีกอิน -แก้ปลัีกอิน ให้ใช้งานได้ กับแมคosxทุกเวอร์ชั่น
ล้างหรือย้ายขยะภาพถ่าย วิดีโอ เพลง itunes, imoves,Photos
ลงโปรแกรม และอื่นๆ ที่ไม่ได้มาจากแอปสโตร ใส่ฟอนต์ภาษาไทย ในงานตัดต่อ
แนะนำและแก้ปัญหา งานตัดต่อวิดีโอ ทั้ง Adobe Premiere , Final cut pro X
ไลน์ไอดี 0877174557
www.facebook.com/finalcutTutor
|